พรรคฝ่ายค้าน รวมตัวอ่านแถลงการณ์กดดันให้ ประยุทธ์ สล็อตแตกง่ายลาออกจากตำแหน่ง ชี้ล้มเหลวในการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคโควิด วันนี้ 28 เม.ย. 64 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้าน ร่วมอ่านแถลงการณ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ความว่า
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองและเข้าบริหารราชการแผ่นดินรวมเวลาที่อยู่ในอำนาจเกือบ 7 ปีเต็ม
แต่การบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับล้มเหลวเกือบทุกด้าน สร้างปัญหาและผลกระทบต่อประเทศ และความทุกข์ยากเดือดร้อนแก่ประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤตปัจจุบัน ดังนี้
1.ล้มเหลวและมีความผิดพลาดในการจัดการการระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดหาวัคซีน การกระจายวัคซีน การฉีดวัคซีน จนกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนวัคซีนและฉีดวัคซีน อันดับท้ายๆในภูมิภาค นอกจากนั้นรัฐบาลกลับเป็นต้นตอเสียเองในการระบาดในหลายๆระลอก ความล้มเหลวในการควบคุมการระบาด จนกลายเป็นประเทศที่อัตราการแพร่เชื้อต่อคนสูงที่สุดในโลกในช่วงเวลาหนึ่ง การจัดการเรื่องเตียง และ ICU ผิดพลาดจนประชาชนต้องนอนรอความตายโดยไม่สามารถเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้
2.ล้มเหลวในการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ ตลอดเวลาที่บริหารมาเกือบ 7 ปีกว่าก็ย่ำแย่อยู่แล้ว การระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ล้มเหลวที่สุดในโลกด้านเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในประเทศที่ฟื้นตัวช้าที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ด้านเศรษฐกิจปากท้องพี่น้องประชาชนยากลำบากจากมาตรการเยียวยาที่ผิดพลาด ไม่ตรงจุด ไม่เพียงพอ ธุรกิจล้มตายจำนวนมากเพราะมาตรการด้านสินเชื่อล้มเหลว แรงงานว่างงานมากสุดในรอบกว่าสิบปี พี่น้องประชาชนเข้าสู่ภาวะไม่ตายเพราะโรค ก็ตายเพราะไม่มีจะกิน
3.ล้มเหลวในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งประเทศ สนับสนุนพวกพ้อง ทำลายผู้เห็นต่าง สร้างความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน อาศัย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือและข้ออ้าง เพื่อดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์และอำนาจของตน โดยไม่ได้ใช้เพื่อการควบคุมการระบาดแต่อย่างใด หลอกลวงประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อต้องการรักษาอำนาจและต่อท่ออำนาจของตนเองให้ขยายออกไป
นอกจากนี้ ภายใต้กลไกของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 แม้จะมีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเอาผิดได้ จนทำให้การทุจริตคอรัปชั่นในช่วงของรัฐบาลนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ความล้มเหลว ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ทุจริตคอรัปชั่นเพื่อตนเองและพวกพ้อง
ไร้ทิศทางในการบริหารราชการแผ่นดินเหล่านี้ ถ้าปล่อยไป รังแต่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศและประชาชนจนไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้ กลายเป็นความเสียหายถาวรต่อประเทศ โดยประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่พ่ายแพ้ต่อโควิด-19 และพ่ายแพ้ด้านเศรษฐกิจ อย่างไม่น่าให้อภัย
พรรคร่วมฝ่าย ค้านจึงเห็นว่า เพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลจําเป็นต้องยุติบทบาทในการบริหาร ประเทศโดยทันทีด้วยการลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้มีรัฐบาลมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถ ไม่ยึด ติดอยู่กับอํานาจและผลประโยชน์เข้ามาบริหารประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลนี้มักใช้อํานาจเพื่อสั่งการจากบนลงล่าง ไม่เคารพในการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่ง สะท้อนให้เห็นผ่านรัฐธรรมนูญ ปี 2560 และการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงที่ผ่านมา ต้นเหตุมาจาก รัฐธรรมนูญที่ท่านวาดหวังให้เป็นฐานรองรับเจตนาสืบทอดอํานาจ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อตัวท่านและพวกท่านเท่านั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นว่า หากเราต้องการก้าวไปสู่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีความจําเป็น อย่างยิ่งที่จะต้องตัดต้นตอของปัญหาซึ่งประกอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 และรัฐบาลที่นําโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติให้มีผล บังคับใช้ เพื่อจัดทําประชามติยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเก่า แล้วจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ประชาชน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นคู่ขนานไปกับการเดินหน้ายกเลิกอํานาจของวุฒิสภาใน การเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่ง จะเป็นการตัดวงจรสืบทอดอํานาจของระบอบเผด็จการอย่างถาวร
ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกัน ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อดําเนินคดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะยื่นหนังสือขอให้ ปปช. ไต่สวนและมีความเห็น กรณีมี พฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 53 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงโดยได้ ปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทําให้เชื้อโรคโควิด 19 กลับมาแพร่ระบาด ใหญ่ ประชาชนต้องล้มป่วยและเสียชีวิตไปจํานวนมากต่อไป
สุดท้ายนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะ รัฐประหาร จะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงต้องลาออกจาก ตําแหน่งสถานเดียว และไม่กระทําการใดๆที่จะเป็นการวางกับดัก ต่อท่ออํานาจของตนเองต่อไป
ประวิตร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่รู้ว่า ใครนินทา ‘ประยุทธ์’ หลังจากที่นายกฯขู่พิจารณาตำแหน่ง หากได้ยินว่านินทา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศขู่ว่า จะพิจารณาริบตำแหน่ง หากจับได้ว่า รัฐมนตรีคนไหนนินทาตน ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมาสล็อตแตกง่าย